นาซา แถลงยังไม่เคยพบ UAP หรือ UFO ที่มาจากต่างดาว

นาซา เผยผลการศึกษาวิจัยเรื่อง “ปรากฏการณ์ไม่ธรรมดาที่ไม่ระบุชื่อ” หรือ UAP ยังคงศึกษาต่อไป เวลา 21.00 น. เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566 (เวลาประเทศไทย) องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NASA) ได้ประกาศผลการศึกษาเรื่อง “ปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่ปรากฏหลักฐาน” หรือ UAP ย่อมาจาก ปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่ปรากฏชื่อ หรือที่เรียกกันว่า “ยูเอฟโอ” (Unidentified Phenomena) วัตถุบิน) ซึ่งแปลได้ว่า “วัตถุบินลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายได้” พร้อมตีพิมพ์รายงานข้อสังเกตด้านเทคนิคและวิทยาศาสตร์จำนวน 36 หน้า ท่ามกลางสายตาของหลาย ๆ คนให้ความสนใจในเรื่องนี้ ในการแถลงข่าวของ NASA ยังได้ประกาศแต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านการศึกษา UAP คนใหม่ เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่แข็งแกร่งสำหรับการประเมินข้อมูลในอนาคต จะมีการนำ ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วย

ส่วนหนึ่งของรายงาน นาซายังระบุด้วยว่า ยังไม่มีเหตุผลที่จะสรุป ว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพบเห็นปรากฏการณ์ UAP หลายร้อยครั้ง ที่นาซาสืบสวน อย่างไรก็ตาม.. วัตถุเหล่านั้นต้องเดินทางผ่านระบบสุริยะของเราเพื่อมาถึงที่นี่ รายงานระบุ และถึงแม้ว่ารายงานจะไม่ได้มีข้อสรุปเกี่ยวกับการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่นาซาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะมี เทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว ที่ไม่รู้จักกำลังปฏิบัติการอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก นอกจากนี้ รายงานของนาซา ระบุว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เป็นเครื่องสำคัญในการระบุ UAP ขณะที่สาธารณชน ยังถือว่ามีความสำคัญในการทำความเข้าใจปรากฏกาณณ์ UAP อีกด้วย

 

นาซา เม็กซิโกเผยซากฟอสซิลอายุ 1,000 ปี

 

นาซา การแถลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยหลักฐานกลางสภาเม็กซิโก ที่ระบุว่าเป็นซาก ฟอสซิล ของ “สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์” ซึ่งร่างขนาดเล็ก 2 ร่าง จัดแสดงอยู่มีนิ้ว 3 นิ้วที่มือแต่ละข้าง และมีศีรษะยื่นออกมา โดยยังระบุด้วยว่า ทั้งสองร่าง ถูกค้นพบในประเทศเปรูเมื่อปี 2017 โดยมีอายุประมาณ 700 ปี และ 1,800 ปี ในอดีตเคยมีการค้นพบซากของสิ่งมีชีวิตในลักษณะนี้มาแล้ว แต่พบว่าเป็นร่างมัมมี่ของเด็ก แต่สำหรับครั้งนี้ผลจากการตรวจสอบทั้งการเอ็กซเรย์ วิเคราะห์โครงสร้างแบบสามมิติ และตรวจดีเอ็นเอ ยืนยันว่า ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน

 

ยังไม่พบ UAP หรือ UFO ที่มาจากต่างดาว

 

เรื่องนี้ ดร.มติพล ตั้งมติธรรม นักวิชาการดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า องค์การอวกาศนาซา ระบุเหตุการณ์ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ใดที่ยืนยันได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากต่างดาว แต่เล็งเห็นถึงความสำคัญ และตั้งเป้าว่าเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษาอย่างเป็นระบบต่อไปในอนาคต เรื่องของ UFO รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่อาจจะมาเยือนโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากความสนใจอันล้นหลามนี้ก็มักจะนำมาซึ่งจินตนาการเสริมแต่ง จนกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดอย่างมากมาย และความกังวลการเชื่อมโยงต่อทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้เอง จึงเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญทำให้ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีผู้ที่จะตั้งใจศึกษาปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบ

แต่ในบางครั้งการขาดแคลนการศึกษาอย่างเป็นระบบนี้เอง ยิ่งทำให้เกิดการตีความผิดกันไปต่าง ๆ นา ๆ หรือเกิดความวิตกเพิ่มมากขึ้น จากการรับรู้แหล่งข้อมูลที่ไม่สามารถยืนยันได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ Jaime Maussan ผู้ที่กล่าวอ้างว่าตนเองเป็น “ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยูเอฟโอ” ออกมาเปิดเผย “ซากของเอเลี่ยน” ในประเทศเม็กซิโกที่มีอายุนับพันปี และมีดีเอ็นเอของสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน Maussen เพิ่งจะประกาศการค้นพบซาก “เอเลี่ยน” ที่แท้จริงแล้วเป็นเพียงมัมมี่โบราณจากนัซกาไปก่อนหน้านี้ และการที่รหัสพันธุกรรมของวัตถุ ๆ หนึ่งไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้นั้น ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าวัตถุนั้นจะต้องมีต้นกำเนิดมาจากต่างดาวแต่อย่างใด

 

ตั้งเป้าเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษาอย่างเป็นระบบต่อ

 

นาซา ด้วยเหตุนี้ องค์การอวกาศนาซาจึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการในการศึกษาปรากฏการณ์ปริศนาเหล่านี้ ซึ่งในขั้นแรกเริ่มจากการระบุนิยามใหม่ว่าเป็น UAP หรือ ปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่ยังไม่สามารถอธิบายได้เพื่อพยายามจะลดอคติที่อาจจะเกิดขึ้น และทำให้นักบินหรือนักวิทยาศาสตร์ทั่วไปกล้าที่จะออกมารายงานหรือศึกษาปรากฏการณ์เหล่านี้อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งระบุแนวทางในการรวบรวมข้อมูล รายงาน และศึกษาอย่างเป็นระบบในอนาคต

พร้อมกันนี้ องค์การอวกาศนาซาได้เล็งเห็นว่าการทำความเข้าใจ หาคำตอบ และค้นหาคำอธิบายเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่ยังไม่ทราบคำตอบ รวมไปถึงการหาสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ไม่ว่าจะอยู่นอกโลก หรืออาจจะอยู่ในชั้นบรรยากาศของเรา ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่สำคัญของนาซาด้วยกันทั้งสิ้น และไม่ควรที่จะเพิกเฉยและปล่อยให้เกิดการตีความกันโดยปราศจากการชี้นำโดยหลักการทางวิทยาศาสตร์อีกต่อไป จึงเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษาอย่างเป็นระบบ และใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในการเก็บข้อมูลและหาคำอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้

ดร.มติพล อธิบายเพิ่มว่า คณะกรรมการได้นำปรากฏการณ์ UAP ในอดีตที่เคยบันทึกได้มาศึกษา แต่ก็ยังไม่เคยพบปรากฏการณ์ใดที่ยืนยันได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากนอกโลกของเรา หรือ พูดง่าย ๆ ก็คือ ยังไม่เคยยืนยันได้ว่าจานบิน หรือมนุษย์ต่างดาวเคยมายืนบนโลกของเรา อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการก็ยังยืนยันอีกว่า มีเหตุการณ์ UAP อีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมด และยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้ เป็นการตอกย้ำความสำคัญที่จะต้องมีการรายงานและศึกษาปรากฏการณ์เหล่านี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การค้นพบปรากฏการณ์สำคัญที่เรายังไม่รู้จักต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ คณะกรรมการยังบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นอาจจะมีอยู่จริง และยังคงรอคอยการค้นหาอยู่ และแม้ว่าเราจะยังไม่สามารถค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวในชั้นบรรยากาศของเราได้เร็ว ๆ นี้ แต่เราสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งดาวเทียม กล้องโทรทรรศน์ หรือกล้องโทรทรรศน์อวกาศ ที่อาจจะค้นพบชีวิตที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์หินที่โคจรอยู่ในระยะห่างที่พอเหมาะที่โคจรอยู่รอบๆ ดาวฤกษ์ นอกเหนือจากดวงอาทิตย์ของเราได้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

บทความแนะนำ